ธ.ไทยเครดิตฯ “กล้าให้ Fighter” อัดสินเชื่อธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ มั่นใจธุรกิจไมโครเอสเอ็มอีไปต่อได้ ถ้าใจสู้

16 ก.พ. 2565

ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าอัดสินเชื่อหนุนผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ ปล่อยแคมเปญ “กล้าให้ Fighter” พร้อมฟันฝ่าทุกอุปสรรคเคียงข้างธุรกิจ ไมโครเอสเอ็มอี ด้วยความเชื่อมั่นและมองเห็นในศักยภาพ ความเข้มแข็ง รวมถึงหัวใจนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ โดยเน้นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ที่พัฒนาบนพื้นฐานความเข้าใจในผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อ “SME กล้าให้” ของธนาคาร และพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านสินเชื่อฟื้นฟู ตามมาตรการช่วยเหลือของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายในการ เข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี ตามแนวคิด "Everyone Matters ใครไม่เห็น เราเห็น"

คุณนาธัส กฤตวรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี กล่าวว่า “ผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 มาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบันธนาคารไทยเครดิตมอง เห็นความเป็นนักสู้ของผู้ประกอบการที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้ในภาวะวิกฤต จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่น เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีสามารถประคับประคอง ธุรกิจให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้”สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มสภาพคล่อง และใช้ในการฟื้นฟูธุรกิจธนาคารแนะนำสินเชื่อ SME กล้าให้ ที่ในปีนี้ได้เพิ่มวงเงินสูงสุดเป็น 30 ล้านบาทสำหรับลูกค้า ที่มีหลักประกัน หรือสำหรับลูกค้าที่ไม่มีหลักประกัน ธนาคารเพิ่มวงเงินสูงสุดเป็น 10 ล้านบาท และรับเงินไวภายใน 5 วันทำการธนาคารหลังจากเอกสารครบ

นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อ SME กล้าให้รีไฟแนนซ์ ที่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน โดยรับดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน จากนั้นเดือนที่ 4 ถึงเดือนที่ 12 รับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงตามสัญญารีไฟแนนซ์ ลบด้วย 1% ต่อปี เดือนที่ 13 เป็นต้นไป รับอัตราดอกเบี้ย 6.75% - 12% ต่อปี

นอกจากนี้ ธนาคารยังพร้อมสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อฟื้นฟู หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยลูกค้าปัจจุบันสามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 30% ของวงเงินสินเชื่อเดิม สำหรับลูกค้าใหม่ที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินทุกแห่ง สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 20 ล้านบาท (นับรวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงิน) ซึ่งลูกค้าทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2 ปีแรกเพียง 2% ต่อปี และได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ตามมาตรการของรัฐ

ข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง